Cell Phones Vs Cell towers

Which is worse?

Understanding Cell Phone and Cell Tower Radiation

Cell phones and cell towers are an integral part of modern life, keeping us connected 24/7. But have you ever wondered about the radiofrequency (RF) radiation they emit? In this article, we'll take a closer look at radiation from cell phones and cell towers, and what you need to know to make informed decisions.

Cell Tower Radiation: Cell towers emit RF radiation to communicate with cell phones. The exposure levels from towers are usually lower than phones since towers are farther away. In the UK, the exposure guideline for cell towers is 20 milliwatts per square meter on average. However, actual exposure can vary based on the tower's height, number of antennas, and surrounding environment.

Cell Phone Radiation: Cell phones typically expose you to more radiation than towers since they are used close to the head and body. A 4G phone emits around 14 mW/m² in good condition, while 5G phones have a limited emission of 40 mW/m² - nearly 3 times higher, with a potential of 400 mW/m². Dropping your phone could amplify radiation levels up to 4 times, and removing shielding could increase it up to 10 times.

SAR Levels: The Specific Absorption Rate or SAR measures the rate at which the body absorbs RF radiation. Interestingly, 4G and 5G phones have the same SAR limit, even though 5G phones can potentially emit over 20 times more radiation. Some phones, like the iPhone 12, was even banned in France due to high RFR amounts until radiation was reduced with a software update.

Indoor Radiation: When indoors, cell tower radiation is more diffused, but using your phone inside can trap the radiation, especially with reflective surfaces like foil backed insulation mirrors and metal/roofing. In areas with poor reception, phones can emit up to 10 times more radiation, increasing by about 2 times per bar lost. This is a particular concern in places like hospitals with metal roofs hopefully earthed, where many phones searching for signals creating an unhealthy environment for patients and potentially interfering with sensitive medical equipment, similar to the effect on an airplane or an unearthed Faraday cage. This is the reason we have the option for flight mode on our devices.

Security Risks: Be aware of potential security risks associated with cell phones, such as malware or compromised software updates that could expose your device. It's a scary thought, but if an update can lower RFR on a 5G phone, malware or Pegasus 2 software could potentially increase your phone's radiation at night while charging to levels equivalent to up to 20 cell towers.

Using your phone near electric fields is not advised, as it amplifies the effects of radiation through the physics principle of conductive + electric field = receiver or antenna. This is why you should never use your phone while it's charging.

Conclusion: We rely on cell phones and towers to stay connected, but it's wise to be mindful of the radiation we're exposed more so by devices. By understanding the factors that impact radiation levels and taking sensible precautions, you can make informed choices to limit your exposure while still enjoying the benefits of mobile technology. For more tips on reducing daily radiation exposure, check out the sources in the video description. And the Electric Diet to remediate our wireless world

โทรศัพท์มือถือและเสาสัญญาณเป็นส่วนสําคัญของชีวิตสมัยใหม่ทําให้เราเชื่อมต่อได้ตลอด แต่คุณเคยสงสัยเกี่ยวกับรังสีความถี่วิทยุ (RF) ที่ปล่อยออกมาหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะพิจารณาการแผ่รังสีจากโทรศัพท์มือถือและเสาสัญญาณอย่างละเอียดยิ่งขึ้น และสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

การแผ่รังสีของหอเซลล์: เสาสัญญาณปล่อยรังสี RF เพื่อสื่อสารกับโทรศัพท์มือถือ ระดับการเปิดรับแสงจากหอคอยมักจะต่ํากว่าโทรศัพท์เนื่องจากหอคอยอยู่ไกลออกไป ในสหราชอาณาจักรแนวทางการเปิดรับแสงสําหรับเสาสัญญาณโดยเฉลี่ยคือ 20 มิลลิวัตต์ต่อตารางเมตร อย่างไรก็ตาม การเปิดรับแสงจริงอาจแตกต่างกันไปตามความสูงของหอคอย จํานวนเสาอากาศ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ

การแผ่รังสีจากโทรศัพท์มือถือ: โดยทั่วไปแล้วโทรศัพท์มือถือจะทําให้คุณได้รับรังสีมากกว่าหอคอย เนื่องจากใช้ใกล้กับศีรษะและลําตัว โทรศัพท์ 4G ปล่อยมลพิษประมาณ 14 mW/m² ในสภาพดี ในขณะที่โทรศัพท์ 5G มีการปล่อยมลพิษจํากัดที่ 40 mW/m² ซึ่งสูงกว่าเกือบ 3 เท่า โดยมีศักยภาพ 400 mW/m² การทําโทรศัพท์ตกสามารถขยายระดับรังสีได้ถึง 4 เท่า และการถอดเกราะป้องกันอาจเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

ระดับ SAR: อัตราการดูดซึมจําเพาะหรือ SAR วัดอัตราที่ร่างกายดูดซับรังสี RF ที่น่าสนใจคือโทรศัพท์ 4G และ 5G มีขีดจํากัด SAR เท่ากัน แม้ว่าโทรศัพท์ 5G อาจปล่อยรังสีได้มากกว่า 20 เท่า โทรศัพท์บางรุ่น เช่น iPhone 12 ถูกแบนในฝรั่งเศสด้วยซ้ํา เนื่องจากมีปริมาณ RFR สูง จนกว่ารังสีจะลดลงด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์

การแผ่รังสีในร่ม: เมื่ออยู่ในอาคาร รังสีของหอเซลล์จะกระจายมากขึ้น แต่การใช้โทรศัพท์ของคุณภายในสามารถดักจับรังสีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นผิวสะท้อนแสง เช่น กระจกฉนวนฟอยล์และโลหะ/หลังคา ในพื้นที่ที่มีการรับสัญญาณไม่ดีโทรศัพท์สามารถปล่อยรังสีได้มากขึ้นถึง 10 เท่าเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าต่อแถบที่หายไป นี่เป็นข้อกังวลเป็นพิเศษในสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาลที่มีหลังคาเมทัลชีทที่หวังว่าจะต่อสายดิน ซึ่งโทรศัพท์จํานวนมากค้นหาสัญญาณที่สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อสุขภาพสําหรับผู้ป่วย และอาจรบกวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน คล้ายกับผลกระทบต่อเครื่องบินหรือกรงฟาราเดย์ที่ขุดพบ นี่คือเหตุผลที่เรามีตัวเลือกสําหรับโหมดเครื่องบินบนอุปกรณ์ของเรา

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: ระวังความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ เช่น มัลแวร์หรือการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ถูกบุกรุกซึ่งอาจทําให้อุปกรณ์ของคุณเปิดเผย เป็นความคิดที่น่ากลัว แต่ถ้าการอัปเดตสามารถลด RFR บนโทรศัพท์ 5G มัลแวร์หรือซอฟต์แวร์ Pegasus 2 อาจเพิ่มรังสีของโทรศัพท์ของคุณในเวลากลางคืนในขณะที่ชาร์จให้อยู่ในระดับเทียบเท่ากับเสาสัญญาณมือถือสูงสุด 20 เสา

ไม่แนะนําให้ใช้โทรศัพท์ของคุณใกล้กับสนามไฟฟ้า เนื่องจากจะขยายผลกระทบของรังสีผ่านหลักการทางฟิสิกส์ของสนามนําไฟฟ้า + สนามไฟฟ้า = เครื่องรับหรือเสาอากาศ นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จ

สรุป: เราพึ่งพาโทรศัพท์มือถือและเสาสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อ แต่ควรคํานึงถึงรังสีที่เราสัมผัสจากอุปกรณ์มากขึ้น ด้วยการทําความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับรังสีและการใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมคุณสามารถเลือกได้อย่างมีข้อมูลเพื่อ จํากัด การสัมผัสของคุณในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีมือถือ สําหรับเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดการได้รับรังสีในแต่ละวัน โปรดดูแหล่งที่มาในคําอธิบายวิดีโอ และอาหารไฟฟ้าเพื่อแก้ไขโลกไร้สายของเรา